นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สนขคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ได้ศึกษาแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือ W-MAP (ปี 66-75) เน้นให้เกิดเส้นทางในการเดินทางทางน้ำจาก 131.2 กิโลเมตร (กม.) เป็น 196.6 กม. เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางของประชาชน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ขณะนี้ได้ศึกษาแล้วเสร็จเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณา โดยตามแผนพัฒนาดังกล่าว คาดว่าจะจัดใช้งบลงทุนรวม 9,322.10 ล้านบาท ประกอบด้วย เส้นทางเดิมในปัจจุบัน จำนวน 4 เส้นทาง ระยะทาง 65.4 กม. คาดใช้งบประมาณลงทุน 1,321.05 ล้านบาท อาทิ เส้นทางเดินเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม และเส้นทางคลองประเวศบุรีรมย์ จะมีการพัฒนาบริการจุดเชื่อมต่อล้อ ราง เรือ ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาท่าเรือต่างๆ ให้มีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับผู้โดยสาร
ขณะที่เส้นทางพัฒนาใหม่ในแผนระยะสั้น (ระหว่างปี 66-70) จำนวน 4 เส้นทาง ระยะทาง 74.3 กม. คาดใช้งบประมาณลงทุน 5,305.07 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.เส้นทางเดินเรือในคลองลาดพร้าว ช่วงสายไหมถึงพระโขนง (S1) วงเงินลงทุน 1,446.21 ล้านบาท ระยะทาง 25.7 กม. จำนวน 23 ท่าเรือ คาดพร้อมเปิดให้บริการในปี 69 2.เส้นทางเดินเรือในคลองแสนแสบ (S2) วงเงินลงทุน 3,240.70 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ช่วงวัดศรีบุญเรืองถึงถนนสุวินทวงศ์ 12 กม. 16 ท่าเรือ, ช่วงสะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงวัดศรีบุญเรือง 17.3 กม. 28 ท่าเรือ และช่วงป้อมพระสุเมรุถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ หรือคลองบางลำพู 1.5 กม. 3 ท่าเรือ คาดพร้อมเปิดให้บริการในปี 69
3.เส้นทางเดินเรือในคลองขุดมหาสวัสดิ์-คลองบางกอกน้อย ช่วงประตูน้ำฉิมพลีถึงศิริราช (S3) วงเงินลงทุน 397.53 ล้านบาท 17.1 กม. 18 ท่าเรือ คาดเปิดให้บริการในปี 68 และ 4.เส้นทางเดินเรือในคลองขุดมหาสวัสดิ์ ช่วงประตูน้ำมหาสวัสดิ์ถึงวัดชัยพฤกษมาลา (S4) วงเงินลงทุน 219.93 ล้านบาท 28 กม. 13 ท่าเรือ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 68
นายปัญญา กล่าวต่อว่า ภายใต้แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำกรุงเทพฯ และปริมณฑล สนข. ได้ศึกษาเส้นทางที่จะพัฒนาในระยะยาว (ระหว่างปี 71-75) จำนวน 3 เส้นทาง 56.9 กม. คาดใช้งบประมาณรวม 2,695.98 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยเปิดบริการในปี 72 ประกอบด้วย 1.เส้นทางเดินเรือในคลองเปรมประชากร ช่วงวัดรังสิตถึงบางซื่อ 2.เส้นทางเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนต่อขยาย ช่วงปากเกร็ดถึงที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี และ 3.เส้นทางเดินเรือในคลองประเวศบุรีรมย์ส่วนต่อขยาย ช่วงตลาดเอี่ยมสมบัติถึงวัดสังฆราชา
แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำนี้ สนข. รับหน้าที่ในการศึกษาความเป็นไปได้ และจัดลำดับเส้นทางที่มีความสำคัญเร่งด่วน เพื่อนำเสนอแผนดังกล่าวให้กับกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อบรรจุเป็นวาระการพัฒนาโครงข่ายขนส่ง พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ดูแลเส้นทางทางน้ำต่างๆ ไปพัฒนา อาทิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมเจ้าท่า (จท.) เป็นต้น
นายปัญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะได้รับการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคม เสนอเข้าสู่ที่ประชุม คจร. และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในปี 66 หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะผลักดันแผนดังกล่าวสู่การปฏิบัติ เนื่องจากเป็นแผนการลงทุนที่เหมาะสม สามารถแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนในการเดินทางเชื่อมกรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับรูปแบบการลงทุน เบื้องต้นศึกษาความเหมาะสม เป็นการเปิดประกวดราคาจัดหาเอกชนเข้ามาให้บริการเดินเรือในเส้นทางต่างๆ ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลเส้นทางน้ำ จะเป็นผู้เปิดประกวดราคาเอง อย่างไรก็ตาม ภายหลังพัฒนาเส้นทางเดินทางทางน้ำที่กำหนดไว้แล้วเสร็จ จะสร้างความสะดวกในคมนาคมทางน้ำ เพิ่มท่าเรือบริการจาก 103 แห่ง เป็น 200 แห่ง และคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการในปี 70 เพิ่มเป็น 66,060 คนต่อวัน ก่อนขยายต่อเนื่องในปี 75 เป็นจำนวน 83,484 คนต่อวัน