ความต่อเนื่องของคดี “เสี่ยแป้ง” หลังเกิดเหตุชิงตัว “นายจรวด” ซึ่งทำให้เสี่ยแป้งตกเป็นนักโทษเด็ดขาดคดีปล้นทรัพย์ ปรากฎว่าตำรวจที่ไปจับนายจรวดไป โดยอ้างว่าเป็นการต่องานจับยาเสพติดก็โดนคดีเช่นกัน
ล่าสุด อัยการสูงสุดชี้ขาดฟ้อง 8 จำเลยชุดตำรวจอุ้มรีดเงิน นายจรวดต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 โดยผู้ต้องหาในคดีนี้มีด้วยกัน 8 คน เป็นตำรวจ 7 นาย และสายลับ 1 คน ประกอบด้วย
เปิดคำพิพากษาคดี “เสี่ยแป้ง” ปล้นทรัพย์ชิงตัวนายจรวด
“บิ๊กต่อ” ผบ.ตรคำพูดจาก เว็บตรง. สั่งสอบ “บิ๊กตร.” ช่วย “เสี่ยแป้ง” หลบหนี
พยานสำคัญร่วมแก๊ง “เสี่ยแป้ง” ชิงตัวนายจรวด ปิดปากเงียบ!
1.พ.ต.ต.ฤทธิไกร เหมทานนท์
2.ร.ต.อ.อภิชาติ สกุลกิจ
3.ร.ต.อ.วิทยา อำนวย
4.ด.ต.ฐนนท์ธร กิจถาวร
5.ด.ต.นิรัตน์ เพชรรัตน์
6.ส.ต.ต.อาณัติ แดงหนำ
7.ร.ต.อ.สุรินทร์ ไกรสิทธิ์
8.นายอำพร นวลศรี (สายลับ)
ซึ่งในจำนวนผู้ต้องหาทั้ง 8 คน มี 4 คนที่อยู่ในรถกับนายจรวดในคืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 และเป็นคนไปแจ้งความว่าถูกเสี่ยแป้งกับพวกปล้นทรัพย์ที่สถานีตำรวจภูธรนาขยาด จังหวัดพัทลุง 4 คนนั้นก็คือ 1.พ.ต.ต.ฤทธิไกร เหมทานนท์ 2.ร.ต.อ.อภิชาติ สกุลกิจ 3.ร.ต.อ.วิทยา อำนวย และ4.นายอำพร นวลศรี (สายลับ)
โดยข้อหาที่ อัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริตภาค 9 ส่งฟ้อง และภายหลังอัยการสูงสุดชี้ขาดให้สั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง8 คน มีทั้งหมด 6 ข้อหา คือ
1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ
2.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ทำให้กลัว อันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ทรัพย์สิน /ใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้ปืน ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น เรียกค่าไถ่
4.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นตำรวจ
5.ร่วมกันกรรโชกทรัพย์
6.ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (พืชกระท่อม)
ซึ่งข้อหา ที่ 6 ครอบครองใบกระท่อม ยุติการดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 8 คน เพราะมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำผิดยกเลิกความผิดนั้น ใบกระท่อมถูกกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 8 คนถูกสั่งฟ้องไม่เหมือนกัน ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นตำรวจ"โดยมี 4 คนที่ถูกสั่งฟ้อง คือ ร.ต.อ.อภิชาติ สกุลกิจ, ด.ต.นิรัตน์ เพชรรัตน์, ส.ต.ต.อาณัติ แดงหนำ, ร.ต.อ.สุรินทร์ ไกรสิทธิ์ ซึ่งในจำนวน 4 คนนี้ ร.ต.อ.อภิชาติ เป็นคนที่อยู่ในรถกับจรวดในคืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 และถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ
ส่วนอีก 4 คน ไม่ได้ถูกสั่งฟ้องในข้อหานี้ คือ พ.ต.ต.ฤทธิไกร เหมทานนท์, ร.ต.อ.วิทยา อำนวย, ด.ต.ฐนนท์ธร กิจถาวร และนายอำพร นวลศรี (สายลับ) ซึ่งในจำนวน 4 คนนี้ มี 3 คนที่อยู่กับนายจรวดและร.ต.อ.อภิชาติในรถคืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 คือ พ.ต.ต.ฤทธิไกร, ร.ต.อ.วิทยา และนายอำพร
โดยสรุปคือ 4 คนโดน 5 ข้อหา อีก 3 คนโดน 4 ข้อหา และอีก 1คนนายอำพรโดน 3 ข้อหา ตัดข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบออกไปเพราะนายอำพรเป็นพลเรือน
อัยการสูงสุดชี้ขาดฟ้องตามความเห็นของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 มาเพื่อฟ้องศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้
สำนวนดังกล่าว เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่ศาลพิพากษาจำคุก 20 ปี 6 เดือน นายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง ในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง เสี่ยแป้ง ในความผิดฐาน ร่วมกัน ปล้นทรัพย์ฯ, ข่มขืนใจผู้อื่นฯ, มีอาวุธฯ, พาอาวุธไปที่สาธารณะฯ ในคดีชิงตัวนายจรวด
สำหรับคดีที่อัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งฟ้อง 8 จำเลยชุดตำรวจอุ้ม"นายจรวด" มีความเชื่อมโยงกับคดีปล้นทรัพย์ของเสี่ยแป้ง คือมีมูลเหตุเดียวกันคือ ชิงตัวนายจรวด แต่เป็นคนละคดีกัน ซึ่งโดยรวมตอนนี้ สำนวนรวมถึงคำฟ้องในคดีที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยแป้งที่ถูกพูดถึงในสื่อมีด้วยกัน 3 ส่วน
1. คดีปล้นทรัพย์ ของเสี่ยแป้ง ศาลพิพากษาไปแล้วเมื่อปี 2565 จำคุกเสี่ยแป้ง 20 ปี6เดือน ข้อหาปล้นทรัพย์,ข่มขืนใจผู้อื่นฯ, มีอาวุธฯ, พาอาวุธไปที่สาธารณะฯ คดีนี้เสี่ยแป้งโดนคนเดียว เป็นคดีที่ ชุดจับกุมนายจรวดไปแจ้งความว่า เสี่ยแป้งและพวกปล้นทรัพย์ บังคับขู่เข็ญ ประทุษร้ายต่อร่างกาย เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2562 ที่สภ.นาขยาด แต่ไม่ได้แจ้งความว่าถูกชิงตัวนายจรวดผู้ต้องหา เป็นการแจ้งความเพราะเสียหายส่วนตัวไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ ซึ่งนำมาสู่คดีต่อมา
2.คดีที่อัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งฟ้อง 8จำเลย ชุดตำรวจอุ้มรีดทรัพย์"นายจรวด" นัดส่งตัวสั่งฟ้อง 22 ธันวาคมนี้ สืบเนื่องจาก 8 คนนี้ซึ่งประกอบด้วยตำรวจ 7 นาย พลเรือนที่เป็นสายลับ 1 คน ไปอุ้มนายจรวดจากบ้านในจังหวัดพัทลุงโดยบอกว่านายจรวดเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้า ก่อนที่นายจรวด จะโทรศัพท์กลับมาหาญาติ บอกให้นำเงินสด จำนวน 1.5 ล้านบาท ไปให้กลุ่มตำรวจชุดจับกุม สังกัดชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 แลกกับความปลอดภัย และการปล่อยตัว จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์เสี่ยแป้งกับพวกบุกไปชิงตัวนายจรวด
3.คดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 2-6 คดีปล้นทรัพย์ คดีเดียวกับเสี่ยแป้ง โดยอัยการบอยเป็นผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งสำนวนนี้ยังไม่มีใครทราบรายละเอียด โดยอัยการภาค 9 ได้ส่งสำนวนทั้งหมดมาให้สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ล่าสุดสำนวนถึงมืออธิบดีอัยการวิชาการแล้ว และได้มีการตั้งคณะทำงานวิเคราะห์คำสั่งไม่ฟ้อง อัยการบอย แล้ว
รัฐบาลเมียนมา ระดมทหารนับหมื่นป้องกันเมืองหลวง
ครม.ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 10% ชั้นผู้น้อยสตาร์ท 18,000 บาท
เปิดสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวด 1 ธันวาคม