แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 – 0 ชาร์ลตัน แอธเลติก

By Max Oct 30, 2024

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีรุด ฟาน นิสเตลรอย ในนัดสุดท้ายของฤดูกาลในการพบกับชาร์ลตัน แอธเลติก แต่ปิศาจแดง ก็ไม่มีปัญหาในการทำประตู โดยเอาชนะไปได้ 4-0 และรั้งตำแหน่งอันดับที่ 2 ของตารางพรีเมียร์ชิพเอาไว้ได้
ประตูจากหลุยส์ ซาฮา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เจสัน ยูลล์ ทำเข้าประตูตัวเอง และลูกยิงไกลสุดสวยของคีแรน ริชาร์ดสัน ช่วยให้เอาชนะทีมของอลัน เคอร์บิชลี่ย์ ได้สำเร็จ การได้อันดับที่ 2 ทำให้ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ต้องเล่นรอบคัดเลือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเดือนสิงหาคม
เกมเริ่มต้นอย่างน่าแปลกใจ ฟาน นิสเตลรอย ออกจากสนามไปก่อนเริ่มต้นเกมหลังจากรู้ว่าไม่มีชื่อเป็นนักเตะตัวจริง โดยเซอร์ อเล็กซ์ กล่าวว่าดาวยิงดัตช์แมนมีปัญหาเรื่องสปิริตภายในทีม
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ชิพ ดาวยิงชาวอิตาลีได้รับการยอมรับอย่างมากด้วยผลงานการทำได้มากกว่า 30 ประตูให้กับทีมสำรองในฤดูกาลนี้ เซอร์ อเล็กซ์ มองหาโอกาสที่จะให้อดีตกองหน้าดาวรุ่งของปาร์ม่า ลงเล่นในทีมชุดใหญ่มากขึ้น เขาทำได้ดีในครึ่งเวลาแรกด้วยการวิ่งไล่บอลทุกจังหวะและหาที่ว่างได้ดี
โอกาสแรกของปิศาจแดง มาจากการประสานงานของปีกดาวรุ่ง 2 คน คีแรน ริชาร์ดสัน ซึ่งลงเล่นเป็นปีกซ้ายวิ่งข้ามฟากไปฝั่งขวาเพื่อรับบอลจากไรอัน กิ๊กส์ ในจังหวะเล่นลูกเตะมุมสั้น ปีกซ้ายดาวรุ่งเปิดบอลโค้งไปที่เสาไกล แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าไม่ถึงบอล
หลังจากนั้น ปีกชาวโปรตุเกสได้โอกาสซัดลูกฟรีคิกระยะ 30 หลาแต่ถูกสเตฟาน แอนเดอร์เซ่น ผู้รักษาประตูของชาร์ลตัน ปัดเอาไว้ได้ และรอสซี่ ก็เข้าไปตามซ้ำไม่ทัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 17 ริชาร์ดสัน ได้บอลจากกิ๊กส์ ในแดนตัวเองแล้วพาบอลลุยขึ้นมาเกือบครึ่งสนามก่อนที่จะง้างเท้าซ้ายซัดเต็มข้อจากระยะ 30 หลา แต่บอลไปชนคานกระดอนลงพื้น จากภาพช้าลูกบอลยังไม่ข้ามเส้นประตูเข้าไป
2 นาทีต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ โรนัลโด้ ยิงไปแฉลบนักเตะของชาร์ลตัน ออกหลังไปเป็นลูกเตะมุม กิ๊กส์ รับหน้าที่เปิดโค้งเข้าไปกลางประตู หลุยส์ ซาฮา กระโดดขึ้นโหม่งสะบัดไปที่เสาไกล บอลกระดอนพื้นเข้าไปตุงตาข่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 19
ปิศาจแดง ยังคงเดินหน้าบุกต่อไปและมาได้ประตูที่ 2 ในอีก 4 นาทีต่อมา แกรี่ เนวิลล์ โยนบอลข้ามฟากจากฝั่งขวาไปให้กิ๊กส์ ทางปีกซ้ายก่อนที่ปีกชาวเวลส์จะเปิดเรียดเข้ามาที่หน้าประตู โรนัลโด้ ลองทำประตูด้วยการดีดด้วยส้นเท้าในจังหวะแรกแต่พลาด บอลยังไม่ไปไหนไกล คราวนี้ปีกชาวโปรตุเกสซัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายจ่อๆ ผ่านมือสเตฟาน แอนเดอร์เซ่น เสียบมุมเข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 23
ก่อนจบครึ่งเวลาแรก 10 นาที ชาร์ลตัน ก็มาพลาดทำเข้าประตูตัวเองทำให้ปิศาจแดง นำห่างออกไปอีก ซาฮา ได้บอลขึ้นมาทางปีกขวาก่อนที่จะเปิดลูกพุ่งเรียดไปที่หน้าประตู จูเซ็ปเป้ รอสซี่ พยายามจะวิ่งเข้ายิงแต่ไม่โดนบอล ก่อนที่เจสัน ยูลล์ จะล้มตัวแหย่เท้าพยายามจะสกัดบอล แต่โดนไม่ดีทำให้บอลพุ่งเข้าประตูตัวเองไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต้ด ขึ้นนำห่างไปเป็น 3-0 ในนาทีที่ 35
หลังจากนั้น 6 นาที ชาร์ลตัน เกือบจะทำประตูตีไข่แตกได้ มิเกล ซิลแวสตร์ ส่งบอลคืนหลังพลาดทำให้ดาร์เรน เบนท์ ได้บอลไปดวลเดี่ยวกับเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่เขายิงออกนอกกรอบไปเพียงนิดเดียว
จบครึ่งเวลาแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างด้วยสกอร์ 3-0
ในช่วงพักครึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เปลี่ยนตัวจอห์น โอเชีย ออกไปให้พอล สโคลส์ ลงเล่นแทน กองกลางหัวแดงมีชื่อเป็นตัวสำรองในนัดนี้อย่างน่าแปลกใจ โดยเขาไม่ได้ลงเล่นเลยนับตั้งแต่เกมพรีเมียร์ชิพที่เสมอกับเบอร์มิ่งแฮม 2-2 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม อาการบาดเจ็บเกี่ยวกับสายตาทำให้เขามองเห็นไม่ชัดและคาดว่าเขาไม่น่าจะกลับมาลงสนามได้จนกว่าจะถึงฤดูกาลหน้า แต่จากจังหวะที่เขาได้บอลครั้งแรกและการส่งเสียงเชียร์จากแฟนบอลเจ้าถิ่น เขาดูจะพร้อมลงเล่นแล้ว
ครึ่งเวลาหลังผ่านไปได้ 13 นาที ริชาร์ดสัน ตัดบอลได้ที่กลางสนาม เขาพาบอลลุยขึ้นมาจนถึงระยะ 30 หลาจากหน้าประตูก่อนที่จะซัดไกลด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งเรียดเสียบโคนเสาขวามือของแอนเดอร์เซ่น เข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำห่างสุดกู่เป็น 4-0 ในนาทีที่ 58 ริชาร์ดสัน ได้รับใบเหลืองไปจากการถอดเสื้อแสดงความดีใจในจังหวะนี้
เกมผ่านไปได้ 1 ชั่วโมง เซอร์ อเล็กซ์ ส่งตัวสำรองอีก 2 คนลงสนาม โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ และเนมานย่า วิดิช ลงเล่นแทนที่ของซาฮา และเนวิลล์ ในขณะที่เคอร์บิชลี่ย์ ซึ่งนัดนี้เป็นการคุมทีมชาร์ลตัน เป็นนัดสุดท้ายก็เปลี่ยนตัวส่งดาร์เรน อัมโบรส ลงเล่นแทนที่เจสัน ยูลล์ แต่คงไม่มีอะไรจะมาหยุดชัยชนะของปิศาจแดง ได้อีกแล้ว
ช่วงท้ายเกม ริโอ เฟอร์ดินานด์ มีเวลาว่างมากพอที่จะขอกินขนมปังกรอบในสนามเลยด้วยซ้ำ
จบการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะชาร์ลตัน แอธเลติก ไปได้อย่างสบาย 4-0 คว้าตำแหน่งรองแชมป์พรีเมียร์ชิพได้สำเร็จ (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
เวส บราวน์ 6
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
แกรี่ เนวิลล์ 2
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ไรอัน กิกส์ 11
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 ( น. 58) ( น. 59)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 23)
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 42
หลุยส์ ซาฮา 9 ( น. 19)
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
เนมานย่า วิดิช 15 น. 62 แกรี่ เนวิลล์ 2
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พอล สโคลส์ 18 น. 45 จอห์น โอเชีย 22
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20 น. 61 หลุยส์ ซาฮา 9
ชาร์ลตัน แอธเลติก
สเตฟาน แอนเดอร์เซ่น 16
คริส เพอร์รี่ 5
คริส พาวเวลล์ 22
โอเซ ซานโคฟา 28
กอนซาโล่ โซรอนโด้ 4
แม็ทธิว ฮอลแลนด์ 8
ไบรอัน ฮิวจ์ส 20
ราดอสติน คิชิเชฟ 7
ฌอน บาร์ทเลตต์ 17
ดาร์เรน เบนท์ 10
เจสัน ยูลล์ 9 ( ทำเข้าประตูตัวเอง น. 35)
สำรอง
ดาร์เรน แรนดอล์ฟ 33
โจนาธาน ฟอร์จูน 24 น. 45 โอเซ ซานโคฟา 28
ดาร์เรน อัมโบรส 18 น. 61 เจสัน ยูลล์ 9
ลอยด์ แซม 29 น. 45 ดาร์เรน เบนท์ 10
เจย์ โบธรอยด์ 38
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 4, ยิงตรงกรอบ 8, ยิงหลุดกรอบ 8, โดนบล็อค 3, เตะมุม 8, ฟาวล์ 9, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 1, การครองบอล 60.7%
ชาร์ลตัน แอธเลติก ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 3, โดนบล็อค 2, เตะมุม 2, ฟาวล์ 6, ล้ำหน้า 2, การครองบอล 39.3%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, แกรี่ เนวิลล์ 8, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เวส บราวน์ 7, มิเกล ซิลแวสตร์ 5, จอห์น โอเชีย 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7, ไรอัน กิ๊กส์ 8, คีแรน ริชาร์ดสัน 9, หลุยส์ ซาฮา 7, จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 7, เนมานย่า วิดิช (สำรอง) 6, พอล สโคลส์ (สำรอง) 7, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (สำรอง) 5
ชาร์ลตัน แอธเลติก สเตฟาน แอนเดอร์เซ่น 7, โอเซ ซานโคฟา 5, กอนซาโล่ โซรอนโด้ 6, คริส เพอร์รี่ 5, คริส พาวเวลล์ 5, แม็ทธิว ฮอลแลนด์ 6, ราดอสติน คิชิเชฟ 5, ไบรอัน ฮิวจ์ส 5, เจสัน ยูลล์ 4, ฌอน บาร์ทเลตต์ 5, ดาร์เรน เบนท์ 6, โจนาธาน ฟอร์จูน (สำรอง) 6, ดาร์เรน อัมโบรส (สำรอง) 5, ลอยด์ แซม (สำรอง) 6
Por

By Max

Related Post